SAPPHAYA – CHAINAT
The Feeling of The passageway
.
.
.
คำว่า “ทางผ่าน” ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบใดก็เจ็บไม่ต่างกัน
ชีวิตคนเราเจอกับทางผ่านมากมากหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น ในรูปแบบของความรัก การเดินทางและระบบร่างกาย ตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่กับสถานะนี้มานานพอสมควร อารมณ์ ความรู้สึก ความทรงจำต่างๆที่เกิดขึ้นมันหวนกลับมาอีกครั้งทันทีที่เรานึกถึงมัน
ผมขอใช้อารมณ์ ความรู้สึก ความทรงจำของผม
ถ่ายทอดให้ทุกท่านได้รู้จักกับความรู้สึกของทางผ่าน ผ่านการเดินทางในครั้งนี้ครับ
Chapter 1 — Passageway
คุณเคยเห็นอดีตกับปัจจุบันออกเดินทางไปพร้อมกันหรือเปล่า
ในเช้ามืดของวัน ผมเดินทางมายังโรงแรม SC park เพื่อตรงไปยังอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท จุดหมายของผมในวันนี้ หนึ่งในจังหวัดที่ใครต่อใครพอพูดชื่อ สิ่งแรกที่นึกถึงก็คงจะเป็นสวนนก
และตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชีย
เส้นทางที่ผ่านอำเภอสรรพยาไปอย่างไม่รู้ตัว
“เมืองทางผ่าน”
ชุมชนสรรพยา เป็นชุมชนเล็กๆที่คุณสามารถเดินดูวิถีชีวิตของชาวบ้านได้อย่างไม่ยากเย็น เดิมทีสรรพยาเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งนึงของคนภาคกลาง เมื่อเวลาผ่านไปมีการสร้างเขื่อน สร้างถนนสายเอเชีย ผู้คนเลือกที่เลิกลากับการสัญจรทางเรือ ชุมชนแห่งนี้เลยซบเซา จากความสำคัญของเมืองท่าน้ำกลายเป็นชุมชนที่เงียบเหงา ความคึกคักถูกเปลี่ยนกลายเป็นความคลาสิก และเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำ
วัดสรรพยาวัฒนาราม ศูนย์รวมจิตใจของชาวสรรพยา
ลุงหมีเล่าให้ผมฟังว่า วัดนี้มีไฮไลต์อยู่ที่พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารน้อย ปางกราบพระบรมศพที่มีเพียงไม่กี่แห่งในประเทศละที่นี่สมบูรณ์ที่สุดและด้านหลังของวิหารน้อยยังมีรูปปูนปั้น พระฉายขององค์พระพุทธเจ้าในท่าปางถวายเนตร
ในช่วงเวลาที่แสงแดดทำหน้าที่ได้ดีที่สุดของวัน ความสงบของวัด ความเงียบของสถานที่ทำให้ผมรู้จักที่จะอยู่กับตัวเองและทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้ ความร้อนจากแสงแดดนั้น ก็ไม่สามารถทำลายบรรยากาศภายในวัดได้เลย
ยามเย็นของริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ผ่านชุมชนแห่งนี้ สองริมฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยคุณลุงคุณป้าที่ออกมาหาปลา แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตคนริมน้ำและความสำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศที่คอยหล่อเลี้ยงชิวิตของคนที่นี่
ค่ำคืนของสรรพยาในวันนี้และบรรยากาศที่เงียบสงบตั้งแต่สองทุ่มตรง
มันทำให้ผมหลงรักสถานที่แห่งนี้ได้ไม่ยากเลย
Chapter 2 — ความเลือนลางและจางหาย
เช้ามืดของวันรุ่งขึ้น ผมถูกปลุกเพื่อมาเก็บไข่เป็ดกลางทุ่งนา ในขณะที่คนอื่นในเวลานี้อาจจะกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง การเก็บไข่เป็ดกลางทุ่งเป็นวิถีของชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาเพียงสั้นๆเพื่อให้เป็ดได้ลงไปหาอาหารกินในทุ่งนา หลังจากเหนื่อยจากการฟักไข่ในเมื่อตอนเช้ามืด
และช่วงเวลาสั้นๆนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีค่าจนผมต้องเก็บเกี่ยวมันไว้เพราะคงจะมีน้อยครั้งที่ได้มาเจอกับอะไรแบบนี้อีก
วิถีชุมชนเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับคนที่ชอบเดินทางตามธรรมชาติอย่างผมมาก น้อยครั้งที่ผมจะมีความสุขกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของคนในพื้นที่แบบนี้ และนี่คือ หนึ่งในนั้น
ผมลากับเจ้าเป็ดกลางทุุ่งและเข้าสู่ยามเช้าของสรรพยาที่ตื่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับแสงแดดที่ผ่านกลุ่มเมฆฝนลงมา กิจกรรมชุมชนของที่นี่ที่ผมจะพลาดไม่ได้นั่นคงเป็นการสาธิตการทำข้าวเกรียบลอยน้ำและกลุ่มหัตถกรรมผักตบชวา
ป้าจรวยพร หัวหน้ากลุ่มหัตถกรรมบอกกับผมว่า ถ้าวันนั้นป้าละทิ้งความคิดนี้ไปหรือท้อ ถึงตอนนี้ก็คงไม่มีกลุ่มหัตถกรรมผักตบชวา คำพูดที่มาจากผู้หญิงวัยกลางคนที่ใช้สมาธิจากการถักทอในการรักษามะเร็งนั่นช่วยให้ผมตกผลึกความคิดอะไรบ้างอย่าง
ชุมชนก็ไม่ได้ต่างจากเด็กเล็กๆ ที่ต้องการความเอาใจใส่จากพ่อและแม่ และถ้าแม้แต่เรายังไม่มีเวลาให้กับเด็กคนนี้ สักวันนึงเด็กคนนี้ก็คงจะจากเราไป ก็คงเหมือนกับชุมชนแห่งนี้ อย่างที่ป้าจรวยพร บอก สักวันมันก็คงจะหายไปจริงๆ
Chapter 3 — ความทรงจำ
หลังจากที่อิ่มกับวิถีชุมชน ก็คงจะเป็นการกินมื้อเย็น มื้อนี้พี่ผึ้ง เจ้าของรีสอร์ท ตาลหวานโฮมสเตย์ ได้พาผมหิ้วปิ่นโตไปกินข้าวกลางทุ่งนา คล้ายกับฉากในละครเรื่องนึงที่เราเคยรู้จักในตอนเด็กๆ มนต์รักลูกทุ่ง กลิ่นความเป็นพี่คล้าวและทองกวาว ตลบอบอวนอยู่ทั่วทุ่งนา ตามที่พี่ผึ้งหวังไว้ พี่ผึ้งเป็นคนน่ารักนอกจากจะพามากินมื้อเย็นแล้ว ยังสอนวิธีกินอาหารตามธาตุเดือนเกิดให้กับผมอีกด้วย และนี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งในความทรงจำครั้งใหม่ของผม
เสียงของธรรมชาติและผู้คนท้องถิ่นประสานเป็นเนื้อเดียวกันอยู่ในความทรงจำครั้งนี้ของผม
มันคงยากที่จะลืม
Chapter 4 — MISS
เมื่ออยู่ที่นี่มาสักพัก สิ่งนึงที่ทำให้ผมหวนกลับไปนึกถึงก็คือ คนทางบ้าน ผู้คนในท้องถิ่นชุมชนสรรพยา อยู่ร่วมกันในรูปแบบที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุและเด็กเล็ก และนี่เองคือเสน่ห์ของสรรพยา เมืองที่มีแต่ความเรียบง่ายอย่างสงบ หลายคนที่เคยเดินทางมาที่แห่งนี้ต่างตักตวงความสวยงามของที่นี้และความเอาใจใส่ของผู้คนที่ดูแลผู้มาท่องเที่ยวเหมือนกับลูกหลานของตัวเอง
เพื่อเป็นเรื่องราวและความทรงจำที่สวยงาม
ความอบอุ่นแบบนี้นอกจากที่บ้าน ผมยังมาพบเจอกับชุมชนแห่งนี้อีกด้วย แววตาและความจริงใจที่ถูกส่งมาให้นั้น ผมรับรู้ได้ตั้งแต่วันแรกที่ถึงที่นี่
Chapter 5 — จนกว่าจะพบกันใหม่
การเดินทางครั้งนี้ได้สอนให้ผมเข้าใจและนึกถึงช่วงเวลาในวันแรกของการออกเดินทาง
บางครั้งมุมมองของชีวิตอาจจะเป็นมุมมองที่น่าเบื่อในบางสังคมแต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเรามีมุมที่ผิดไป สิ่งที่ผิดไปคือจุดยืน ที่เราผิดที่ผิดทางมากกว่าและเมื่อใดที่เราได้พบจุดยืนที่เราให้ความสำคัญ เมื่อนั้นมันจะมีค่าและมีความหมายที่สุดสำหรับเรา
สรรพยาก็เช่นกัน ทุกๆที่ล้วนมีเรื่องเล่าและความทรงจำที่แตกต่างกันไป
และสำหรับผม
สรรพยา คือหนึ่งในสถานที่ที่ผมจะไม่มีวันลืมและมันยังคงจะติดตาตรึกใจผมไปอีกนาน
ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้มุมมองของทุกคนที่มีต่อชัยนาทเปลี่ยนไปเชื่อผมเถอะครับ ชัยนาทไม่ได้มีแค่สวนนกและไม่ใช่แค่ทางผ่านเพื่อตรงไปสู่นครสวรรค์หรือเชียงใหม่เท่านั้น แต่มันยังมีอีกหลายสิ่ง หลายความทรงจำ หลายความรู้สึกที่รอคุณเข้าไปสัมผัสอีกมากมาย
THE END
ตัวหนังสือ ภาพถ่ายและวิดีโอ เทียบบอกเล่าเรื่องราวมากมายแต่เทียบไม่ได้กับการสัมผัสเสน่ห์สรรพยาด้วยตนเอง อ่านมาจนถึงบทสุดท้ายแล้วนะครับ ที่นี่พอจะเป็นจุดหมายในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณได้หรือไม่ ถ้าคำตอบในใจของคุณคือ ใช่ หลังจากนี้เราคงได้ทักทายกันแบบเห็นหน้าค่าตาแน่นอน
.
.
.
สรรพยา ยินดีต้อนรับครับ
https://www.facebook.com/patt.warachai/media_set?set=a.2415033951907422&type=3
ขอบคุณแรงบันดาลใจในการออกเดินทาง พี่เบนซ์ ไกจิ