วิถีชีวิตพอเพียง ก็เพียงพอ @บ้านลำขนุน
เคยมีคนบอกว่าถ้าปัญหาที่มีอยู่มันหนักเหลือเกิน ลองวางมันลงสักครู่ แล้วออกเดินทาง เอาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่เขียวๆ ฉ่ำๆ เอาขาแช่น้ำเย็นๆ แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าใสๆ เหมือนได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ตัวใหม่ของชีวิต แล้วโยนตัวเก่าที่ผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงทิ้งไปเป็นปุ๋ยของประสบการณ์ ชุมชนบ้านลำขนุน ต.ชุมนาเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เป็นชุมชนเกษตรพอเพียง ริมป่าต้นน้ำเทือกเขาบรรทัด ด้วยทำเลที่ตั้งที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเยียวยาจิตใจของผู้ที่ได้เดินทางเข้ามาได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว คนในชุมชนบ้านลำขนุนก็พร้อมต้อนรับ ผู้เดินทางหน้าใหม่ๆ อย่างเรา ด้วยความอบอุ่นใจ
โฮมสเตย์บ้านผู้ใหญ่หนูอิ่ม ปานอิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 สไตล์บ้านสวนรอบรั้วด้วยเกษตรพอเพียง เป็นตัวเลือกที่พอเหมาะ พอดี ของการพักผ่อนในทริปนี้ บางทีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายพอเพียง อาจจะเป็นคำตอบที่เพียงพอ
การได้รับอาหารปลอดสารจากสวนเกษตรพอเพียงรอบบริเวณบ้าน ผ่านฝีมือพี่เอียดแม่บ้านของผู้ใหญ่อิ่ม อาหารท้องถิ่นเรียบง่าย วัตถุดิบในสวนครัว เพราะถ้าความขียวฉ่ำของที่นี้เยียวยาจิตใจได้แล้ว กระเพาะของเราคงอยากจะพักจากหมูกะทะ อาหารจานด่วน มาเป็นอาหารคลีนๆ ปลอดสาร ย่อยง่ายไม่แพ้กัน
ก่อนที่เราจะเริ่มสำรวจชุมชนลำขนุน ผู้ใหญ่อิ่มแนะนำให้เราใส่บาตรยามเช้าหน้าบ้าน เพื่อความอิ่มอุ่นและเสริมกำลังให้กับใจพังๆที่โซซัดโซเซ จากเด็กยอดเขาเหนือยสุดสยาม มาถึงด้ามขวานของประเทศไทย ดินแดนที่มีศิลปะท้องถิ่นที่น่าสนใจแตกต่างจากที่เคยเจออยู่มาก ผู้ใหญ่อิ่มต้อนรับเด็กดอยอย่างเราด้วยการพามาชมการแสดงมโนราห์จากเยาวชนท้องถิ่นที่งดงาม พร้อมกับการได้ทานผลไม้สดๆ สอยจากต้นหลังโรงมโนราห์ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลของผลไม้ที่ชุมชนบ้านลำขนุน ทำให้เราจะได้ทานผลไม้กันตลอดทั้งทริป
จบการแสดงก็ถึงเวลาออกสำรวจชุมชนบ้านลำขนุน เริ่มต้นด้วยน้ำตกสายรุ้ง น้ำตกที่มาจากหน้าผาสูงใหญ่ของเทือกเขาบรรทัด ท่ามกลางความเงียบสงบ ตัดกับเสียงนกร้องดังใกล้บ้างไกลบ้าง รอบตัวเรา กลับเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงไหล พอที่จะทำให้เราตกอยู่ในพวังของความงดงามของธรรมชาตินั้นอย่างง่ายดาย
รู้สึกตัวอีกทีตอนท้องร้อง ถึงเวลาเปิดปิ่นโต ทานข้าวเที่ยง ท่ามกลางเสียงน้ำตกสายรุ้ง อาหารเรียบง่ายจากชุมชนแต่บรรยากาศที่ไม่สามารถเทียบมูลค่าได้ เพราะธรรมชาติไม่อาจสร้างได้ด้วยเงินทอง หรือแม้แต่เวลาเพียงน้อยนิด ซึ่งนักเดินทางใจพังๆ อย่างเรา หรือไม่พังก็ตามแต่ ต้องช่วยกันดูแล ทรัพยากรอันบริสุทธ์เหล่านี้ ไม่ให้พังตามใจเราไปอีกที ไม่งั้นคงจะแย่ ใจก็พัง ธรรมชาติก็พัง จบกันทีเดียว
การมาเที่ยวน้ำตกสายรุ้งพี่เสือไกด์ชุมชนแนะนำเราว่า ควรมาช่วงบ่าย เพราะเป็นช่วงเวลาที่แสงพระอาทิตย์ตกกระทบกับละอองน้ำเกิดเป็นสายรุ้งให้เห็นตามชื่อ แต่ถ้าไม่เห็นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะความเขียวฉ่ำ เสริมกับความเย็นสดชื่อของน้ำตกลงมาเป็นอ่างน้ำส่วนตัว แค่นี้ก็ฟินสุด เกินบรรยายแล้ว
กลับจากน้ำตกพี่เสือก็พาเราไปเดินเล่นที่หลาดต้นน้ำลำขนุน (หลาดคือตลาดในภาษาใต้) ตลาดชุมชนในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ที่มีลำน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี เรียนรู้การทำคอปเตอร์ไม้ไผ่และกังหันไม้ไผ่ ของเล่นพื้นบ้าน ที่เป็นการนำกระบอกไม้จากการขายน้ำสมุนไพรในตลาดมาแปรรูป โดยพี่วุฒิและพี่ขวัญ ตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นเศษวัสดุจากการเหลือใช้ในหลาดลำน้ำขนุน มาเพิ่มมูลคาโดยผ่านฝีมือที่ปรานีต ของพี่ทั้งสองคน
เราปิดทริปของวันด้วบการนั่งชมบรรยากาศคลองปินะที่ไหลมาจากเทือกเขาพับผ้าหรือเทือกเขาบรรทัด คนพื้นถิ่นเรียกเขาพับผ้าเนื่องจากในอดีตเขานี้เป็นจุดซื้อขายผ้าจะเห็นแม่ค้ามานั่งพับผ้ากันเต็มไปหมด ลำน้ำไหลผ่านหลาดต้นน้ำลำขนุน จนกระอาทิตย์ลับขอบเขา ไปพร้อมกับการทานอาหารในตลาด ซึมซับบรรยากาศที่ผ่อนคลายเพื่อเตรียมตัวลุยในวันถัดไป
เราจะไปพายเรือคายักที่ลำน้ำพิกุล ที่ไหลมาจากสายน้ำ 5 สาย สายน้ำไทรงาม ลำปีนะ ลำขนุน ลำทู่ ลำพิกุล(สายรุ้ง) เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง เอาจริง ถ้าไม่ติดอะไร จะใช้เวลานานกว่านี้ก็ได้ ซึ่งมาถึงจุดนี้แล้ว หัวใจก็ซ่อมมาได้เกินครึ่ง พร้อมกลับไปลุยเต็มที่ จะว่าไปแล้วการพายคายักอาจจะไปพายที่ไหนก็ได้ แต่วิวสวยๆ น้ำใสๆ กับไกด์ท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ต้องมาเจอด้วยตัวเองที่คลองลำพิกุล
ตื่นเช้ารับอรุ่นของวันใหม่เช้านี้ที่โฮมเสตย์บ้านผู้ใหญ่อิ่ม เราต้องเข้าสวนไปทำโคนข้าวโพดและเรียนรู้การทำเกษตรพอเพียงรอบโฮมเสตย์ ทำให้เราได้รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างหากผ่านการเข้าใจและประสบการณ์ จะสามารถให้เรามองปัญหา เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่เจอปัญหาให้เราท้อถอย และทำให้เราได้เรียนรุ้การบริหารเศษวันสดุเหลือใช้หรือการปรับแต่ง ดูแลต้นไม้อย่างเหมาะสมกับพืช และเหมาะสมกับเรา
หลังจากการทำสวนในตอนเช้า ซึ่งเหมือนเป็นการออกกำลังกายหลังตื่นนอน วันนี้เราจะไปเยี่ยมสวนข้างบ้าน ที่เค้าว่ากันว่ามีคุณลุงสิทธิ์ ปราชญ์ชาวบ้านผู้เป็นคนสร้างสายพันธุ์มะนาวที่สามารถทานได้ทั้งเปลือกสายพันธ์ุแรกและสายพันธ์ุเดียวของประเทศไทย ลุงสิทธ์บอกว่ามะนาวนี้ชื่อว่าศรีทองดำ มีความหมายเหมือนทองคำที่ถูกดินโคลนทาปิดไว้จนมองไม่เห็นเนื้อทองคำด้านใน ก็เปรียบเสมือนมะนาวศรีทองดำที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกินสดกับน้ำผึ้งโพรง ตัดด้วยเกลือเล็กน้อย ทำให้ชุ่มคอแก้เสมหะ หรือจะเป็นการดองด้วยน้ำผึ้งโพรงทานทุกเช้า ตามด้วยน้ำอุ่น ก่อนทานอาหาร ช่วยลดพุง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
นอกจากจะเกษตรพอเพียงแล้ว คนในชุมชนลำขนุนมองเห็นทรัพยากรในธรรมชาติอันเป็นทรัพมรดกของคนถิ่นนี้สามารถนำมาเป็นพลังงานทดแทนได้อย่างดี ลุงฟื้น คนทำถ่าน บ้านลำขนุน คุณลุงใช้ความรู้จากการเผาเตา 200 ลิตร มาผสมกับประสบการณ์ที่ตนเองมีอยู่ และการมองเห็นต้นทุนวัสดุที่มีอยู่รอบตัว มาปรับใช้ให้พอดี และพอเพียง ทำให้ลดต้นทุนรายจ่ายในครัวเรือน และอีกหนึ่งสถานีที่น่าสนใจคือการใช้พลังงานน้ำมาเป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้า ซึ่งอาจจะให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอทั้งชุมชนในอนาคตก็ได้
ไหนๆก็มาเยือนถึงถิ่นมโนราห์แล้วเราจะพลาดหนังตลุงไปได้ยังไง ในเย็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ในชุมชนบ้านลำขนุน เราขอปิดด้วยการเยี่ยมชมโรงเชิดหนังตลุง และลงมือแกะหนังตลุงที่ทำจากหนังวัวฟอกขาว ไปด้วยชมการเชิดหนังตลุงกันสดๆ ไปด้วย หน้าดีใจแทนหนังตลุงที่สุด ที่ยังมีกลุ่มเยาวชนนำทีมโดยน้องตุ้ง ยังรักษ์และสืบสานหนังตลุงศิลปะประจำภาคใต้ไว้ ไม่ให้หายไปกับกาลเวลายุคสมัยในปัจจุบัน
วันสุดท้ายเราออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าไปในเมือง ไปเดินเล่นในเมืองถ่ายรูปเก๋ๆ หาของกินอร่อยๆ แล้วแวะไปทะเลสักหน่อย จัดให้ครบ เขาต้นน้ำ ล่องคายักผ่านลำคลอง จนถึงทะเล พอให้มั่นใจว่าแบตของหัวใจเต็มเกินร้อย ก็แอบใจหวิวๆ อำลาคุณป้าคุณน้า พลังเราอาจจะไม่มากไปกว่าเดิมที่จะแก้ปัญหาหนักด้วยเวลาเพียงน้อยนิด แต่เรามีมุมมองปัญหาให้ มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แล้วใช้ชีวิตให้เพียงพอ อยู่บนฐานพอเพียง
แวะชมบ้านโบราณของตระกูลคีรีรัตน์ที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาตร์ผ่านลูกหลานของตระกูลและ และเดินชมป่าธรรมชาติ ที่สวนพฤษศาสตร์ทุ่งค่าย
แล้วแวะไปถ่ายรูปชิคๆ ให้เข้าเทรน ที่สถานีรถไฟสุดสายฝั่งอันดามัน สถานีกันตัง
วันนี้อากาศสดใส ไหนๆก็ยังพอมีเวลาเหลือ ก่อนที่ผู้ใหญ่อิ่มจะไปส่งเราขึ้นเครื่องกลับช่วยพาเราแวะไปเดินเล่นที่หาดกันตังกันสักหน่อย ค่อยลาจากจบทริป ยอดเขาต้นน้ำจนสู่ทะเล
เพราะตรัง ไม่ได้มีแต่ทะเล ………………………
ออกไปสำรวจโลก ด้วยตัวคุณเอง
เราเอาบรรยากาศรอบพื้นที่ชุมชนลำขนุนมุมสูงมาฝาก